โรคต้อกระจก (Cataract) เป็นภาวะที่เลนส์ตาขุ่นมัว ส่งผลให้การมองเห็นไม่ชัดเจน อาจมองเห็นเหมือนมีหมอกบางๆ หรือมองเห็นภาพไม่ชัดเจน โรคนี้มักเกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น แต่สามารถเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่นด้วย เช่น การบาดเจ็บ การใช้ยาบางชนิด หรือโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน
สาเหตุของโรคต้อกระจก
1. อายุที่มากขึ้น:** เมื่ออายุมากขึ้น เลนส์ตาจะเสื่อมและขุ่นมัวไปตามธรรมชาติ
2. การบาดเจ็บที่ตา:** อาจทำให้เลนส์ตาขุ่นมัวในทันทีหรือในภายหลัง
3. การใช้ยาสเตียรอยด์เป็นเวลานาน:** สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดต้อกระจก
4. ปัจจัยทางพันธุกรรม:** ประวัติครอบครัวที่มีภาวะนี้อาจเพิ่มความเสี่ยง
5. โรคประจำตัว:** เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
6. การได้รับแสงแดดมากเกินไป:** การสัมผัสรังสี UV จากแสงแดดโดยตรงโดยไม่ปกป้องตา
อาการของโรคต้อกระจก
- การมองเห็นมัวเหมือนมีหมอกหรือควัน
- มองเห็นภาพซ้อน (อาการจะค่อยๆ แย่ลง)
- มองเห็นสีไม่ชัดหรือซีดจาง
- ความไวต่อแสง โดยเฉพาะในที่แสงจ้า
- มองเห็นแสงจ้าหรือแสงสะท้อนจากดวงไฟมากเกินไป
- ต้องการแสงสว่างมากขึ้นเมื่ออ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้สายตา
- การมองเห็นตอนกลางคืนแย่ลง
การวินิจฉัยโรคต้อกระจก
การตรวจตาโดยแพทย์จักษุแพทย์เป็นวิธีการที่สามารถวินิจฉัยโรคต้อกระจกได้ชัดเจน ซึ่งรวมถึงการทดสอบต่างๆ เช่น:
- **การตรวจเลนส์ตา (Slit Lamp Examination):** เพื่อตรวจดูเลนส์ตาและค้นหาความขุ่นมัว
- **การตรวจตาด้วยกล้องขยาย:** เพื่อดูความเสียหายของเลนส์และประเมินการขุ่นมัว
- **การวัดความสามารถในการมองเห็น (Visual Acuity Test):** เพื่อตรวจสอบว่าการมองเห็นแย่ลงแค่ไหน
สรุป
โรคต้อกระจกเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ แต่สามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการผ่าตัด หากคุณมีอาการที่สงสัยว่าเป็นโรคต้อกระจก ปรึกษาการดูแล 065-096-4419